ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่มา : http://ajsakda.files.wordpress.com/2009/05/552000005058001.jpeg
สาเหตุ
ข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ออกมาในตอนแรกๆ นั้น เรียกโรคนี้ว่า “ไข้หวัดหมู”
(Swine Influenza หรือเรียกสั้นๆ ว่า swine flu) ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะสารพันธุกรรมของไข้หวัดใหญ่
สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ ส่วนใหญ่ไปเหมือนกับสารพันธุกรรมของไข้หวัดหมูนั่นเอง สำหรับคำอธิบายของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ใน
เว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก ได้ระบุไว้ว่า... เป็นโรคติดต่อที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอตัวใดตัวหนึ่งของหมู โดยเชื้อจะแพร่ติดต่อกันได้ทาง
อากาศทั้งทางตรงและทางอ้อม ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหมูส่วนมากเป็นสายพันธุ์ย่อย
H1N1(แม้จะเป็นชนิดA(H1N1)เช่นเดียวกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
แต่องค์ประกอบของสารพันธุกรรมก็ยังไม่เหมือนกันทั้งหมด) ส่วนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ที่พบในหมูคือ H1N2, H3N1
และ H3N2 หมูสามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ของนกและคนได้ดีเท่าๆ กับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ของหมู ซึ่งบาง
ครั้งสามารถติดเชื้อไวรัสได้มากกว่าหนึ่งชนิดในเวลาเดียวกัน ทำให้ยีนจากไวรัสเหล่านี้เกิดการผสมกัน เป็นผลให้เกิด
การกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แม้ว่าโดยปกติแล้วเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ของหมูจะติดต่อกันเฉพาะในกลุ่มของหมูเท่านั้น แต่บางครั้งผลจากการกลายพันธุ์ของไวรัสนี้ก็เป็นเหตุ
ให้เชื้อติดต่อมาสู่คนได้เช่นกัน
อาการ
อาการใกล้เคียงกับอาการโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบตามปกติ เช่น
- ไข้สูง
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ไอ
- เจ็บคอ
- อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียด้วย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง สามารถหายป่วยโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ผู้ป่วยหลายรายในเม็กซิโกมีอาการปอดอักเสบรุนแรง (หอบ หายใจลำบาก) และเสียชีวิต
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นโรคระบาดทางระบบหายใจที่มีความรุนแรง แม้ว่าจะไม่มีการรักษาหรือ
วิธีป้องกัน
สามารถจะป้องกันได้ด้วยวิธีง่าย ๆดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยหรือติดเชื้อ และเมื่อคุณไม่สบายก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสหรือ
อยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นด้วยเช่นกันโดยอาจจะต้องอยู่ภายในบ้านอย่างน้อย 7 วันนับตั้งแต่วันที่มีอาการ
2.ใช้ผ้าปิดปากและจมูก โดยเฉพาะเมื่อมีการไอ หรือจาม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสัมผัสเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อ
3. ล้างมือบ่อย ๆด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อลดการสัมผัสเชื้อ
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา จมูก หรือปาก เนื่องจากเชื้อไวรัสอาจมีการแพร่กระจายตามแหล่งต่าง ๆ เมื่อคุณสัมผัส
เชื้อแล้วมาสัมผัสที่ดวงตา จมูก หรือปากของคุณหรือบุคคลอื่นจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อเป็นไปได้มากขึ้น
5.พยายามรักษาสุขภาพพลานามัยให้ถูกสุขลักษณะ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้
ครบ 5 หมู่ ขจัดความเครียด ดื่มน้ำมาก ๆ เป็นต้น
ที่มา : http://www.bangkokhealth.com/cimages/swine_flu06.jpg
หากไม่มีแนวทางป้องกันและระวังจะเกิดอะไรขึ้นในโลกนี้
หากไม่ป้องกันและระวังจะเกิดวุ่นวายต่อมนุษยชาติ และเมื่อเวลาผ่านไปนานๆเชื้อโรคตัวนี้อาจจะเกิดการกลายพันธุ์ไปเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งยากต่อการรักษาให้หมดไป
..........................................................................
ที่มา : http://www.medical-checkup-center.piyavate.com/medical-check-up-center_swine_flu_article_th.php
http://www.i-medipro.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538684922&Ntype=3