เครื่องชั่ง
เครื่องชั่ง (Scale)
เครื่องชั่งส่วนผสม
เครื่องชั่ง (Scale) มีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประโยชน์ในการใช้งาน สำหรับอาหารเครื่องชั่งมีความสำคัญ
คือ ไว้สำหรับชั่งส่วนผสมต่างๆในการประกอบอาหาร
เครื่องชั่งที่พบเห็นโดยทั่วไป จะเป็นเครื่องชั่งประเภทสปริง ที่หน้าปัดจะมีตัวเลข และเข็มชี้ตัวเลข หรือขีดเครื่องหมาย
เพื่อบ่งบอกน้ำหนักของสิ่งของที่นำมาชั่ง เครื่องชั่งประเภทนี้มีทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กง
1. เครื่องชั่งขนาดใหญ่
ที่มารูปภาพ : www.rd1677.com/
ขนาดของเครื่องชั่งจะใหญ่ จานรองรับสิ่งของที่นำมาชั่งจะกว้างสามารถชั่งสิ่งของที่มีน้ำหนักได้ครั้งละหลายกิโลกรัม
เครื่องชั่งขนาดนี้สามารถบอกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 2 กิโลกรัม ขึ้นไปถึง 20-25 กิโลกรัม หรือมากกว่านั้น ยังมีเครื่องชั่งที่มีขนาดใหญ่
ที่สามารถชั่งน้ำหนักของได้มากกว่านี้อีก แต่ในที่นี้จะไม่ขอกล่าวถึง
2. เครื่องชั่งขนาดกลาง
ที่มารูปภาพ : http://www.dit.go.th/uploadnew/cbwm32/RTE/2008199B4E_hand_pic.gif
เครื่องชั่งลักษณะนี้มีให้พบเห็นทั่วไปตามท้องตลาด พวกแม่ค้าจะนิยมใช้กันมาก สามารถบอกน้ำหนักสิ่งของได้ตั้งแต่
100 กรัมขึ้นไป จนถึง 7 กิโลกรัม หรือ 15 กิโลกรัม
รุป ตาชั่ง 3 กิโล
3. เครื่องชั่งขนาดเล็ก
ที่มารูปภาพ : www.kitchenwaremarket.com/
oscommerce/catalog/...
ลักษณะของเครื่องชั่งจะมีรูปแบบ และสีสันสวยงาม มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีความทนทานน้อยกว่าเครื่องชั่งชนิดอื่นๆ
เครื่องชั่งชนิดนี้สามารถบอกน้ำหนักสิ่งของที่นำมาชั่งได้ละเอียดมากกว่าเครื่องชั่งขนาดใหญ่ และขนาดกลาง
สามารถชั่งสิ่งของที่มีน้ำหนักเพียงเล็กน้อยได้ สามารถบอกค่าน้ำหนักได้ตั้งแต่ 5 กรัมเป็นต้นไป จนถึง 1 หรือ 2 กิโลกรัม
ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน หรืออุตสาหกรรมขนาดเล็ก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ที่จะเลือกใช้ให้เหมาะสม
กับชนิดของงาน
วิธีการใช้
1. วางเครื่องชั่งบนพื้นราบ
2. วางจานรองรับสิ่งของที่จะนำมาชั่งบนเครื่องชั่ง
3. มองดูเข็มชี้ตัวเลขที่หน้าปัดตาชั่งให้ปลายแหลมของเข็มชี้ตรงกลางเลขศูนย์ ถ้าเข็มชี้ตัวเลขไม่ตรงกับเลขศูนย์
ให้ปรับเข็ม ให้ตรงเลขศูนย์ก่อนที่จะนำสิ่งของมาชั่ง
4. นำสิ่งของที่ต้องการชั่งวางบนจานรองรับ ใชสายตาอ่านค่าน้ำหนัก และเมื่อสิ่งของที่ชั่งยังมีน้ำหนักไม่ตรงตามต้องการ
เช่น สิ่งที่นำมาชั่งมีค่าน้ำหนักน้อย ให้เพิ่มสิ่งของนั้นบนเครื่องชั่งจนกว่าจะได้น้ำหนักตามต้องการ และถ้าสิ่งของที่นำมาชั่งมี
ค่าน้ำหนักเกินต้องการ ให้หยิบสิ่งของนั้นออกจากเครื่องชั่งจนกว่าจะได้น้ำหนักตามต้องการ
วิธีอ่านค่าน้ำหนักสิ่งของที่ชั่ง
หน้าปัดของเครื่องชั่งประเภทสปริงขนาดใหญ่ และขนาดกลาง จะมีตัวเลขบอกน้ำหนักเป็นกิโลกรัม และมีเข็มชี้ตัวเลข
เพื่อบอกน้ำหนักของสิ่งของที่นำมาชั่ง ซึ่งเข็มชี้ตัวเลขจะหมุนจากซ้ายไปขวาเหมือนเข็มนาฬิกา โดยทั่วๆไปจะกำหนด
ให้น้ำหนัก 1 กิโกรัมแสดงเครื่องหมายเป็นขีดช่องเล็กๆ จำนวน 10 ช่อง และมีเครื่องหมายเป็นขีดแบ่งช่องแสดงไว้ให้
เห็นชัดเจนทุกๆช่องของน้ำหนัก 1 กิโลกรัม แต่ละช่องเรียกว่า 1 ขีด มีค่าเท่ากับ 100 กรัม 1 กิโลกรัม มี 10 ช่อง เท่ากับ
1,000 กรัม เช่น เข็มชี้ตัวเลขไปอยู่ตรงขีดช่องที่ 1 หมายความว่า มีน้ำหนัก 1 ขีด เท่ากับ 100 กรัม ถ้าอยู่ตรงกับขีดช่องที่ 2
หมายความว่ามีน้ำหนัก 2 ขีด หรือ 200 กรัม เป็นต้น ถ้าเข็มชี้ตัววเลขไปตรงกับขีดช่องที่ 6 แสดงว่ามีค่าน้ำหนัก 6 ขีด เท่ากับ
600 กรัม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 1 ชั่ง (คำว่าชั่ง เป็นหน่ววัดน้ำหนักของสิ่งของที่นิยมใช้ในสมัยก่อน)
สำหรับเครื่องชั่งประเภทสปริงขนาดเล็ก จะแตกต่างจากขนาดใหญ่และขนาดกลาง คือ หน้าปัดของเครื่อชั่งจะมีตัวเลข
บอกน้ำหนักเป็น 100 กรัม และ 200 กรัม ... 900 กรัม และ 1 กิโลกรัม มีเข็มชี้ตัวเลขโดยหมุนจากซ้ายไปขวามือเหมือนกับ
เครื่องชั่งขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ในทุกๆ 100 กรัม จะมีตัวเลขกำกับให้เห็็น และมีเครื่องหมายเป็นขีดแบ่งเป็นช่องเท่าๆกัน
มีค่าช่องละ 10 กรัม บางยี่ห้ออาจมีเครื่องหมายแบ่งครึ่งของช่องเป็นขีดเส้นสั้นๆบางๆ เพื่อแสดงให้เห็นเป็นขีดช่องละ 5 กรัม ก็มี
ซึ่งเครื่องชั่งขนาดนี้สามารถชั่งสิิ่งของที่มีขนาดเพียงเล็กน้อย ก็สามารถอ่านค่าน้ำหนักได้ เช่น 5 กรัม 10 กรัม เป็นต้นไป
ซึ่งเครื่องชั่งขนาดใหญ่และขนาดกลางเข็มชี้ตัวเลขไม่สามารถแสดงค่าน้ำหนักเล็กน้อยได้เท่ากับ เครื่องชั่งขนาดเล็ก
การดูแลรักษา
1. ระวังอย่าให้เครื่องชั่งตกหล่น กระแทกพื้น
2. เลือกใช้ขนาดของเครื่องชั่งให้เหมาะสมกับน้ำหนักของสิ่งของที่จะชั่ง
3. หลังจากใช้แล้ว ให้ใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ เช็ดถูเครื่องชั่งให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจานรองรับสิ่งของที่นำมาชั่ง
และฝาครอบหน้าัปัดที่เป็นพลาสติก แล้วนำเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ